เท้า เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่ทำให้เราไม่หยุดนิ่ง สามารถเคลื่อนไหวร่างกายไปได้ในทุก ๆ ที่ ในท่วงท่าไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง กระโดด เขย่งเท้า หรือการยืน เพื่อทรงท่าร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าลักษณะของเท้าของแต่ละคนย่อมมีจุดแตกต่างกัน และอาจเกิดปัญหาได้ ยกตัวอย่างเช่น บางคนมีปัญหาเท้าแบน ‘เท้าล้ม’ หรืออุ้งเท้าสูง ก็ทำให้เวลาเดิน หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ส่งผลต่อร่างกายได้ บางคนก็มีอาการปวดส้นเท้า ปวดเข่า ปวดหลัง ตามมาได้นั่นเอง
แล้วเท้าของคุณมีลักษณะอย่างไร
ลักษณะเท้าของแต่ละคนอาจมีจุดที่แตกต่างกัน โดยลักษณะเท้าทั่วไปของคนเราจะมีส่วนโค้งเว้าของฝ่าเท้าหรือที่เรียกว่า “Arch of foot” จะเป็นจุดรองรับน้ำหนักและกระจายแรงที่มากระทำต่อฝ่าเท้าและร่างกายขณะยืนทรงท่า หรือเกิดการเคลื่อนไหวที่เท้าต้องสัมผัสกับพื้นผิวต่าง ๆ ซึ่งบริเวณโค้งฝ่าเท้าก็จะประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกและพังผืดฝ่าเท้า ที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับเท้าเรานั่นเอง ซึ่งลักษณะเท้าของคนเราที่บอกว่ามีความแตกต่างกัน ก็จะแบ่งออกมาเป็น 3 แบบหลัก ๆ คือ มีลักษณะเท้าปกติ เท้าแบนหรือ ‘เท้าล้ม’ และอุ้งเท้าสูง จะเห็นได้จากภาพด้านล่างนี่เลย
ซึ่งคนที่มีลักษณะของเท้าแบนหรือเท้าล้ม จะมีความยืดหยุนที่เท้าสูงแต่ความมั่นคงของเท้าต่ำ และยิ่งในนักกีฬาอย่างนักวิ่งหากมีปัญหาเท้าแบนหรือเท้าล้ม เวลาวิ่ง ก็จะทำให้เข่าบิดหมุนเข้าด้านใน ทำให้เกิดอาการปวดเข่าได้ และเมื่อเข่าบิดก็ส่งผลต่อสะโพก และหลังที่สามารถเกิดอาการปวดตตามมาได้เช่นกัน
ปัญหาที่อาจเกิดจากเท้าล้ม หรือเท้าแบนได้
- เอ็นกล้ามเนื้อเท้าอักเสบ (Posterior tibial tendon dysfunction : PTTD) ซึ่งตัวกล้ามเนื้อ tibialis posterior จะทำหน้าที่ในการหมุนเท้าเข้าด้านใน (Foot inversion) ซึ่งจะส่งผลต่อการเดิน วิ่ง กระโดด หรือยืน ซึ่งเมื่อเราใช้งานเยอะและซ้ำ ๆ ทำให้เราเกิดอาการปวดเท้า ปวดขา และกล้ามเนื้อตึงตัวตามมาได้
- ข้อต่อเท้าอักเสบ อาจเกิดในระยะที่รุ่นแรงขึ้นของเท้าล้มที่ส่งผลต่อข้อเท้าทำให้กระดูกข้อเท้ามีอาการบวม อักเสบ และส่งผลต่อการเคลื่อนไหวที่แย่ลงได้
- รองช้ำ (Plantar fasciitis) ก็เป็นอีกอาการบาดเจ็บหนึ่งที่สามารถเกิดได้จากเท้าแบน เนื่องจากลักษณะของเท้าที่ล้มทำให้ตัวกล้ามเนื้อ และพังผืดใต้ฝ่าเท้าซึ่งการรองรับน้ำหนักและการกระจายแรงที่กระทำต่อฝ่าเท้านั้นไม่ดีเท่าลักษณะเท้าปกติ เมื่อเกิดแรงกระแทกซ้ำ ๆ เช่น วิ่ง กระโดด หรือเดินยืนนาน ๆ ก็เลยทำให้เกิดรองช้ำได้นั้นเอง
- ปวดเข่า ลักษณะของเท้าล้มส่งผลต่อการหมุนของข้อเข่า เวลาที่เราลงน้ำหนักในการวิ่ง กระโดด หรือเดินจะทำให้ข้อเข่าหมุนบิดเข่าด้านใน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณเข่าอาจได้รับบาดเจ็บ และส่งผลต่ออาการปวดเข่า หรือเกิดเอ็นข้างเข่าอักเสบเป็นต้น
- ปวดหลัง สืบเนื่องมาจากการที่เข่าบิดหมุนก็ส่งผลต่อสะโพกที่หมุนตามมาด้วย ก็ทำให้เกิดอาการปวด หรือเจ็บสะโพกได้
การป้องกันและแนวทางการรักษา
- การรักษาทางกายภาพบำบัด : การออกกำลังกายเท้าเพื่อเพิ่มความมั่นคงของฝ่าเท้าให้การเคลื่อนไหวสมดุลมากขึ้น และการยืดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อน่องคลายตัว และเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และการเสริมแผ่นรองเท้าสำหรับคนที่เป็นเท้าแบนก็จะช่วยส่งเสริมให้เท้าอยู่แนวปกติมากขึ้นได้
- การรักษาทางการแพทย์ ส่วนมากการรักษาทางแพทย์จะเป็นการให้ยาแก้ปวด แก้อักเสบ และหากรุนแรงจนกระทบต่อการใช้ชีวิตไม่สามารถเดินได้ โครงสร้างเท้าผิดปกติไปจากเดิมมาก ๆ ก็จะทำการผ่าตัดแก้โครงสร้างของเท้าเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้
ลดความเสี่ยงรองช้ำ ด้วยแผ่นเสริมส้นเท้า
นวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบมารองรับส้นเท้า ด้วยวัสดุซิลิก้าเจลเพื่อรองรับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นต่อเท้า ทั้งการเดิน วิ่ง กระโดด โดยสวมเข้ากับรองเท้าเพื่อให้กระชับกับส้นเท้า เพิ่มความมั่นใจในการเคลื่อนไหวทุกท่วงท่า และลดความเสี่ยงต่อการอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับส้นเท้าได้อีกด้วย