ปวดหลังล่าง อาการที่ใครต่างก็เคยเป็นไม่ว่าจะเป็น แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา พนักงานขนของ หรืออาชีพที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างพนักงานบริษัท ที่ต้องนั่งหน้าคอมมากกว่า 8 ชั่วโมงขึ้นไป ยังไงก็หนีไม่พ้นอาการนี้อย่างแน่นอน เพราะกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ขยับเขยื้อน อยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดความตึงตัวได้ พอขยับที่ก็มีเสียงกระดูกดังลั่น ขยับทีสองทีก็พอคลายเมื่อยได้ แต่ผ่านไปอาการปวดก็จะกลับมาอีก หากอยากให้อาการปวดหลังหายไประยะยาวก็ต้องนี่เลย ท่าบริหารกล้ามเนื้อหลัง ที่ต้องทำทั้งการยืดกล้ามเนื้อ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นกับกล้ามเนื้อ และออกกำลังกายตาม เพื่อทำให้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวแข็งแรงมากขึ้น ทำให้อาการปวดหลังทุเลาลงไปได้นั่นเอง หากเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ไปออกกำลังกายกันเลยดีกว่า
1.Knee to chest
ท่าเริ่มต้น : ท่านั่งบนเก้าอี้
ลักษณะท่าทาง : เริ่มจากนำมือสอดใต้เข่าแล้วดึงเข้าหาลำตัว โดยหลังยังคงตรงอยู่ โดยจะรู้สึกตึงบริเวณกล้ามเนื้อก้นและขาดด้านหลัง
จำนวน : ค้างไว้ประมาณ 15 วินาที 3- 5 ครั้ง/เซต 3 เซต/วัน
2.Trunk rotation stretch
ท่าเริ่มต้น : ท่านั่งบนเก้าอี้
ลักษณะท่าทาง : เริ่มจากนั่งหลังตรง หมุนลำตัวและศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่ง ให้กล้ามเนื้อด้านข้างลำตัวรู้สึกตึงค้างไว้และสลับทำอีกฝั่ง
จำนวน : ค้างไว้ประมาณ 15 วินาที 3- 5 ครั้ง/เซต 3 เซต/วัน
3.Tunk lateral flexion
ท่าเริ่มต้น : ท่านั่งบนเก้าอี้
ลักษณะท่าทาง : เริ่มจากนั่งหลังตรง ชูแขนข้างใดข้างหนึ่งขึ้นมา พร้อมเอียงลำตัวและศีรษะไปด้านข้างให้กล้ามเนื้อด้านข้างลำตัวรู้สึกตึง โดยมืออีกข้างเอื้อมมาจับขาฝั่งที่ยืดหรือจับพนักพิงแขนฝั่งที่ยืดก็ได้
จำนวน : ค้างไว้ประมาณ 15 วินาที 3- 5 ครั้ง/เซต 3 เซต/วัน
4.Core stabilize
ท่าเริ่มต้น : นอนหงาย ศีรษะวางราบกับพื้น ชันเข่า โดยงอเข่าประมาณ 90 องศา เท้าวางราบกับพื้น
ลักษณะท่าทาง : วางมือตรงบริเวณขอบกางเกงในหรือต่ำกว่าสะดือ โดยให้เกร็งกล้ามเนื้อท้องบริเวณนั้นขึ้นมา โดยให้รู้สึกเหมือนใส่กางเกงฟิตๆ แล้วกล้ามเนื้อจะเกร็งตัวขึ้นมา และควบคุมลมหายใจเข้าออกประมาณ 3 ลมหายใจ นับเป็น 1 ครั้ง หากทำแล้วเกิดอาการหน้ามืดหรือเวียนหัวให้พักก่อน
จำนวน : ทำ 10ครั้ง/เซต 3 เซต/วัน
5.Plank
ท่าเริ่มต้น : ท่านอนคว่ำ ตั้งศอก และกางขาให้พอดีกับไหล่
ลักษณะท่าทาง : เริ่มจากยกตัวขึ้นมาให้ขนาน หลังไม่โก่ง ศีรษะไม่แหงน ก้นไม่โด่ง และพยายามเกร็งหน้าท้อง
จำนวน : ค้างไว้ประมาณ 30-60 วินาที 3 เซต/วัน
6.Side plank
ท่าเริ่มต้น : ท่านอนตะแคง ตั้งศอกตั้งฉากกับลำตัว
ลักษณะท่าทาง : เริ่มจากยกตัวและสะโพกให้ขนานกัน โดยหลังตรง คอตรง พยายามเกร็งหน้าท้องและก้น
จำนวน : ค้างไว้ประมาณ 30-60 วินาที 3 เซต/วัน
7.Cat and cow
ท่าเริ่มต้น : ตั้งคลาน ลงน้ำหนักที่ฝ่ามือและเข่าทั้งสอง
ลักษณะท่าทาง : เริ่มจากท่าตั้งคลาน รักษาแนวหลังให้ตรง เชิดหน้าขึ้น แอ่นก้น กดหลังลง ดึงหน้าท้องลง พร้อมหายใจเข้า จากนั้นก้มคอ เก็บคาง โก่งหลังขึ้น พร้อมหายใจออก
จำนวน : 10 ครั้ง/เซต 3 เซต/วัน
ข้อควรระวัง
การยืดกล้ามเนื้อให้ทำแค่พอกล้ามเนื้อตึง หรือในองศาที่เรายืดไว้ก็เพียงพอแล้ว ไม่ควรยืดจนถึงความรู้สึกเจ็บ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการบาดเจ็บซ้ำได้ และไม่ควรกลั้นหายใจขณะยืดหรือออกกำลังกาย เพราะอาจจะทำให้หน้ามืดได้
ข้อแนะนำ
- ควรลุกออกจากโต๊ะทำงาน เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย และเกิดการขยับของกล้ามเนื้อป้องกันไม่ให้เกิดความตึงตัว หรืออาการปวดคอ บ่า และหลังส่วนล่าง
- ควรแบ่งเวลาในการทำงานให้ได้หยุดพักทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง
- หากทำการยืดหรือออกกำลังกายแล้ว อาการปวดหลังยังไม่ดีขึ้นหรือทุเลาลง แนะนำให้รีบไปปรึกษาแพทย์หรือพบนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ
หมดไปแล้วกับ 7 ท่าบริหารกล้ามเนื้อหลัง หวังว่าเพื่อน ๆ ชาวออฟฟิศ หรือชาวปวดหลังทุกคนจะสามารถนำไปลองทำตามกันดูได้ อาการปวดหลังเป็นสิ่งที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เมื่อร่างกายมีสัญญาญปวดมาแล้วนั้นก็แปลว่าร่างกายอาจกำลังมีปัญหา อย่าปล่อยให้ร่างกายต้องทนกับความปวดนี้ มาบริหารกล้ามเนื้อไปพร้อม ๆ กันนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ไม่อยากปวดหลัง ก็ต้องนี่เลยเบาะรองหลัง รองนั่ง ซัพพอร์ตเวลาทำงาน
ต้องบอกเลยว่าปัญหาอาการปวดหลัง เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และเกิดจากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็มาจากการนั่งทำงานที่ไม่ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์นั้นเอง การเสริมเบาะรองหลัง และรองนั่งก็จะเป็นการปรับและกระตุ้นให้เกิดท่านั่งที่ถูกต้องต้องได้นั้นเอง หากอยากรู้ว่าเบาะรองหลังรุ่นไหนจะเบาะกับเรา ก็อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : วิธีการเลือกเบาะรองหลัง เพื่อสุขภาพ หรือใครสนใจไปดูสินค้าเลยก็สามารถตามไปที่รูปสินค้าด้านล่างนี่ได้เลย