ปัญหาเรื่องการปวดหลัง ปัจจุบันถือเป็นเรื่องใกล้ตัวของคนยุคใหม่โดยเฉพาะวัยทำงานอย่างมาก เพราะการปวดหลังถือเป็นหนึ่งในกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมที่พบเจอได้บ่อย บางคนก็ปวดเล็กน้อย บางคนก็ปวดมากจนไม่สามารถนั่งทำงานได้ และมีหลายคนที่มีอาการปวดหลังไม่มากแต่เรื้อรังจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งปัญหาของการปวดหลังนั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อย่างที่คิด เพราะในระยะยาว อาการปวดหลังจะรบกวนการใช้ชีวิตโดยเฉพาะการทำงานอย่างมาก และก่อนที่อาการปวดหลังจะลุกลามจนกลายเป็นเรื่องน่าหนักใจ วันนี้เรามาดูกันว่า มีพฤติกรรมอะไรในชีวิตประจำวันของเราบ้าง ที่อาจส่งผลให้ปวดหลังมากในอนาคต บอกเลยว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่เราไม่ควรมองข้ามกันเลยทีเดียว
5 พฤติกรรมที่ทำให้ปวดหลัง
แม้ว่าอาการปวดหลัง ส่วนหนึ่งจะเกิดจากกลุ่มอาการของโรคที่เรียกว่ากระบวนการเสื่อมของหมอนรองกระดูสันหลัง แต่กว่าหมอนรองกระดูกสันหลังของเราจะไปถึงขั้นเสื่อมได้นั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมของเราเองที่ไปทำร้ายข้อต่อต่างๆของกระดูกสันหลังแบบไม่รู้ตัว ไปดูกันสิว่า คุณเผลอทำอาการแบบนี้บ่อยๆ หรือเปล่า เพราะพฤติกรรมเหล่านี้แหละที่ทำร้ายหลังแบบไม่รู้ตัว
1. การนั่งทำงานนานๆ
ยุคนี้ เราสามารถทำงานได้ทุกอย่างจากโต๊ะทำงานของเรา เพราะอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆมันรวดเร็วมาก ไม่ต้องลุกไปไหนก็สามารถส่งต่อข้อมูลกันได้แล้ว แต่คุณทราบหรือไม่ว่า แค่ 30 นาที ก็นานเกินไปแล้วสำหรับการนั่งทำงาน เพราะนักกายภาพบำบัดแนะนำว่า เราไม่ควรนั่งอยู่ใยอิริยาบถเดิมหรือนั่งท่าเดิมติดต่อกันนานเกิน 30 นาที เมื่อเรานั่งนานๆ กล้ามเนื้อหลายส่วนจะทำงานไม่สมดุลกัน ทำให้เราเผลอตัวนั่งในท่าทางที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ซึ่งท่านั่งที่ผิดวิธีเหล่านี้จะทำให้เกิดการ ปวดหลัง ปวดเอว และเป็นสาเหตุสำคัญของโรคออฟฟิศซินโดรมอีกด้วย
2. การนั่งไขว่ห้าง
ใครรู้สึกว่านั่งสบายสุดในท่าไขว่ห้างยกมือขึ้น ใช่เลยล่ะ หลายคนรักการนั่งไขว่ห้างมากๆ เพราะรู้สึกว่า สบาย ผ่อนคลาย แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าเรานั่งทำงานไปเรื่อยๆ ชิลๆ ในท่าไขว่ห้าง เราจะมีความเสี่ยงในการปวดหลังอย่างมาก นั่นก็เพราะ การนั่งไขว่ห้างทำให้รูปร่างของกระดูกสันหลังอยู่ในสภาพที่ผิดธรรมชาติ เกิดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อส่วนหลังอย่างมาก การนั่งไขว่ห้างจึงเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลต่ออาการปวดหลังแบบที่คุณไม่รู้ตัว
3. การนั่งหลังค่อม หลังงอ
หนึ่งในสาเหตุสำคัญของอาการปวดหลังที่สุดคลาสสิตก็คือ การที่เราเผลอตัวนั่งในท่าทางที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น นั่งหลังคู้ นั่งหลังค่อม หรือ นั่งก้มหน้า ท่านั่งที่ผิดวิธีเหล่านี้จะผลกระทบต่อกระดูกสันหลัง และกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ เป็นสาเหตุสำคัญให้มีอาการ ปวดหลัง ปวดเอว เมื่อยคอบ่าไหล่ และในระยะยาวอาจส่งผลต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง กระดูกสันหลังคด ได้อีกด้วย
4. การนั่งเก้าอี้ที่ไม่เหมาะสมกับสรีระร่างกาย
ระดับของการนั่งมีผลต่ออาการปวดหลังอย่างมาก บ่อยครั้งที่เราพบว่าอาการปวดหลังเกิดการที่เรานั่งเก้าอี้ที่มีระดับไม่เหมาะสมกับการทำงาน หรือไม่เหมาะสมกับสรีระร่างกาย เช่น การนั่งพื้นแล้วทำงานนานๆ ด้วยโต๊ะญี่ปุ่น การนั่งทำงานโดยใช้โต๊ะทานข้าวซึ่งเก้าอี้ต่ำเกินไป ทำให้ต้องเกร็งหลัง และปวดหลังในที่สุด
5. การนั่งทำงานโดยวางโน๊ตบุ๊คไว้บนตัก
ปิดท้ายกันด้วยท่ายอดฮิตของคนวัยทำงานยุคใหม่ ที่ชื่นชอบอะไรที่ดูสบายๆ นั่งก็คือการทำงานที่ไหนก็ได้ แล้วก็เอาวางโน๊ตบุ๊คไว้บนตัก บอกเลยว่าท่านี้หลังทำงานหนักมาก เพราะทั้งต้องก้ม ทั้งต้องเกร็ง และอยู่ในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้องเอาเสียเลย หาโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งทำงานจะดีกว่านะ
เบาะรองหลัง & เบาะรองนั่ง Bewell ตัวช่วยดี๊ดีสำหรับหลังของคุณ
เบาะรองหลังและเบาะนั่งจาก Bewell เป็นผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณนั่งทำงานได้อย่างมีความสุข ตัวเบาะเป็น Memory Foam 100% ไม่ยุบและคืนตัวได้ทันที จึงช่วยรองรับแรงกดทับจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆได้ดี ตัวเบาะหลังออกแบบมาเพื่อช่วยปรับท่านั่งให้ถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์ ทำให้คุณนั่งทำงานได้สบายๆ แบบหลังไม่งอ ลดอาการปวดหลังได้ดี แค่มีเบาะรองหลัง & เบาะรองนั่ง Bewell ไม่ต้องซื้อชุดเก้าอี้ทำงานชุดใหญ่ ก็สบายใจได้ว่าห่างไกลจากอาการปวดหลังแน่นอน