หน้าเบี้ยวครึ่งซีก (ฺBell’s Palsy) เป็นอาการของเส้นประสาทคู่ที่ 7 อักเสบ ซึ่งเลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้าที่ใช้แสดงสีหน้าต่างๆ ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า นอนน้อยเสี่ยงแค่ไหน จะหายไหม ดูแลตัวเองอย่างไร มีวิธีรักษาแบบไหนบ้าง มาดูกันค่ะ
หน้าเบี้ยวครึ่งซีก หรือ โรค Bell’s Palsy อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเป็นโรคที่เกิดจาก เส้นประสาทคู่ที่ 7 อักเสบ ซึ่งจะทำให้เกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีก (ซีกซ้าย หรือ ซีกขวา )จึงทำให้มีอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีกได้ ซึ่งจะประกอบไปด้วยอาการ ยักคิ้วไม่ได้ ปิดตาไม่สนิท กระพริบตาไม่ได้ มุมปากตก ดื่มน้ำแล้วน้ำไหลออกจากมุมปากด้านใดด้านหนึ่ง หูอื้อ หรือ ชาลิ้น แรกเริ่มอาจนำมาด้วยหูอื้อ ปวดหู มีเสียงก้องๆ
โรคนี้เมื่อเป็นแล้วอาการจะค่อยๆดีขึ้นภายใน 1-2เดือน และมีโอกาสเป็นซ้ำอีกในด้านเดิม หรือด้านตรงข้ามก็ได้
แน่ใจได้อย่างไรว่าเป็น Bell’s Palsy
หลายๆคนอาจจะสับสนกับผู้ป่วย Stroke (เส้นเลือดในสมองตีบ/แตก/ตัน) ซึ่ง 2 โรคนี้ ต้นเหตุของการเกิดอยู่คนละที่กัน Bell’s Palsy จะเป็นเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อยู่บริเวณกกหู แต่ Stroke เป็นเส้นเลือดในสมอง แม้อาการแสดงจะมีอาการหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว มุมปากตกเหมือนกัน แต่จะมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ปวดหัวฉับพลัน รู้สึกเดินเซ สับสน มึนงง อย่างไรก็ดีหากไม่แน่ใจ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
ใครบ้าง เสี่ยงเป็นโรคนี้
- คนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย เครียด ทำงานหนัก จะทำให้ภูมิคุ้มกันตกอย่างรวดเร็ว
- คนในครอบครัวเคยเป็น กรรมพันธุ์
- คนที่เคยประสบอุบัติเหตุแถวๆบริเวณหูมาก่อน
เป็นโรคนี้รักษาอย่างไร ?
- ยาเสตียรอยด์
- ทำกายภาพบำบัด
การดูแลตนเองเบื้องต้น
- ใส่แว่นตากันลม
- ใช้ยาหยอดตา
- ทำกายภาพบำบัด
- ประคบอุ่น
เมื่อไหร่ที่พักผ่อนไม่เพียงพอก็มีความเสี่ยงของโรคได้ อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเสริมความแข็งแรง ภูมิคุ้มกัน เพียงแค่มี เสื่อโยคะ และ ยางยืด 1 เส้น ก็สามารถออกกำลังกายเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้แล้ว