อาการปวดคอ บ่า ไหล่ สามารถบรรเทาได้ด้วยหลากหลายวิธี เช่น การประคบร้อน นวดคลายกล้ามเนื้อ ยืดกล้ามเนื้อ หรือการออกกำลังกาย ก็ล้วนช่วยทำให้กล้ามเนื้อคอบ่าทำงานได้ดีขึ้น แต่วันนี้เราจะมานำเสนอวิธีที่ทุกคนสามารถทำตามกันเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาใคร ๆ พร้อมแล้วไป ‘นวดกดจุด’ กันเลย

เทคนิคและวิธีในการนวดกดจุด

การนวดกดจุด หรือที่เรียกว่า Deep Friction Massage เป็นการกดหรือขยี้ลงไปบริเวณกล้ามเนื้อที่มีความตึงตัว โดยจะกดขวางลายเส้นใยกล้ามเนื้อให้เนื้อเยื่อเกิดความอ่อนตัวลง จุดกดเจ็บลนกล้ามเนื้อค่อย ๆ สลายไป และทำให้เลือดไหลเวียนมาบริเวณกล้ามเนื้อนั้น ๆ ได้ดีขึ้น จึงทำให้อาการปวดของกล้ามเนื้อลดลงได้นั่นเอง 

นอกจากการ ‘นวดกดจุด’ แล้วยังมีการนวดแบบหยิบกล้ามเนื้อขึ้นมาทั้งหมด หรือที่เรียกว่า Picking up massage โดยจะเป็นการหยิบกล้ามเนื้อนั้น ๆ ขึ้นมา โดยใช้อุ้งมือบีบยกกล้ามเนื้อให้ลอยขึ้น แนะนำให้สลับกับการนวดกดจุด จะทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายไปได้อีกแบบ 

ตำแหน่งในการนวดกดจุด

เมื่อรู้จักเทคนิคในการนวดกันไปแล้วมาดูตำแหน่งที่ควรกดคลายเส้นหรือกล้ามเนื้อกันเถอะ

1.ใต้ฐานกะโหลก 

เป็นตำแหน่งที่ใครหลายคนอาจจะสงสัยว่าปวดคอ บ่า ทำไมต้องมากดนวดตรงฐานกะโหลกด้วย ต้องบอกก่อนว่าใต้ฐานกะโหลกของเราเป็นจุดเกาะของกล้ามเนื้อที่ชื่อว่า Trapezius ซึ่งเกาะยาวมาถึงกระดูกสะบักและแนวกระดูกสันหลังส่วนอก ซึ่งกล้ามเนื้อตัวนี้หากเกิดอาการปวดคอ บ่า แล้วจะมีตำแหน่งที่ปวดร้าวไปบริเวณอื่นได้ เช่น ปวดร้าวขึ้นศีรษะ หรือปวดร้าวบริเวณบ่าได้ และนอกจากนี้ยังมีกลุ่มกล้ามเนื้อมัดเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวหลังกล้ามเนื้อ Trapezius กลุ่มกล้ามเนื้อนี้มีชื่อว่า Suboccipital หากกลุ่มกล้ามเนื้อเหล่านี้มีความตึงตัวก็จะทำให้มีอาการปวดร้าวไปที่กระบอกตาได้ จึงเป็นตำแหน่งที่แนะนำในการนวดกดจุดเพื่อคลายความตึงตัวขอกล้ามเนื้อ และเป็นการลดอาการปวดศีรษะและปวดกระบอกตาได้ในคราเดียวกันไปเลย

2.กล้ามเนื้อคอด้านหลัง

ตำแหน่งกล้ามเนื้อหลังคอเป็นตำแหน่งที่มีจุดกดเจ็บเป็นอันดับแรก ๆ ของกล้ามเนื้อเลยก็ว่าได้ นอกจากกล้ามเนื้อ Trapezius ที่กล่าวไปแล้วยังมีกล้ามเนื้ออีกตัวที่ชื่อ Leavator Scapulae ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่มีปัญหาความตึงตัวและส่งผลให้เกิดอาการปวดคอได้เช่นกัน ซึ่งการนวดกดจุดในตำแหน่งนี้จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อคอคลายตัวได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อและส่งผลให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นได้นั่นเอง

3.กล้ามเนื้อบ่า 

มาถึงตำแหน่งสุดท้าย ตำแหน่งที่ถ้าได้นวดกดจุดลงไปแล้วจะสบายหลังจากนวดมาก เพราะเป็นตำแหน่งที่จะเจอกันก้อนกล้ามเนื้อที่แข็งตัวขึ้นเป็นลำ หรือใครที่เคยลองคลำ ๆ บ่าตัวเองแล้วรู้สึกมันเป็นก้อน ต้องบอกเลยว่ากล้ามเนื้อบ่าตรงนี้คือจุดที่ต้องคลายกล้ามเนื้อก่อนใครเพื่อน เพราะตำแหน่งนี้เราจะมีการเกร็งของกล้ามเนื้อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวจากการนั่งทำงานท่าไม่ถูกต้อง หลังค่อม ไหล่ห่อ คอยื่น กล้ามเนื้อบ่าก็จะทำงานหนักและมีความตึงตัวและอาการเกร็งเกิดขึ้นได้ เราจึงควรนวดกดจุดในบริเวณนี้เพื่อคลายกล้ามเนื้อให้เกิดความยืดหยุ่นให้มากขึ้น ก็จะช่วยลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ลงไปได้อย่างแน่นอน

การนวดกดจุดอาจจะทำเพียงวิธีเดียวเลยไม่ได้ ถ้าทางที่ดีเลยเมื่อกล้ามเนื้อมีความตึงตัวเกิดขึ้นแล้วควรยืดกล้ามเนื้อด้วยตัวเองร่วมด้วย จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น เพิ่มองศาในการเคลื่อนไหววของคอ บ่า เพิ่มการไหลเวียนเลือด อีกทั้งยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วย และยังเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายและปลอดภัยอีกด้วย 

ยืดกล้ามเนื้อคอบ่า อ่านเพิ่มเติม :  3 ท่า “ยืดกล้ามเนื้อคอ” จากการนั่งทำงาน

หากนั่งทำงานดี กล้ามเนื้อคอบ่าจะตึงได้อย่างไร

อยากทำงานสบาย ๆ คลายกังวลเรื่องหลัง ต้องลอง Ergonomic chair เก้าอี้เพื่อสุขภาพของทาง Bewell ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาตร์ให้ตอบโจทย์ทุกสรีระและทุกท่านั่ง พนักพิงที่ออกแบบให้รองรับแผ่นหลังได้อย่างเต็มที่ ที่ปรับแขนที่ปรับได้แบบ 4D จะขึ้นลง หน้าหลัง ซ้ายขวา ก็พร้อมรับกับการทำงานของแขนทุกอิริยาบถ การปรับเอนพนักพิงที่เลือกองศาเองได้ จะมุมทำงานหรือมุมพักผ่อนก็หายห่วงเลยก็ว่าได้ สุขภาพเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ อยากห่างไกลออฟฟิศซินโดรมต้องลองแล้ว