คุณกำลังประสบอาการปวดหัวบ่อยๆ เวลาอยู่ออฟฟิศหรือไม่ บางทีไม่ต้องไปมองที่ไหนอื่นไกล กิจวัตรประจำวันในออฟฟิศของเรานี่ล่ะ อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ แต่โชคดีที่อาการปวดหัวเหล่านี้สามารถแก้ได้โดยง่าย ถึงเวลาแล้วที่เราจะสลัดพฤติกรรมไม่ดีที่ทำในออฟฟิศทิ้งไป แล้วเป็นคนใหม่ที่สดใสกว่าเดิม ซึ่งเราแบ่งต้นตออาการปวดหัวออกเป็น 5 สาเหตุ ดังนี้
:: โทรศัพท์ ::
การจัดวางท่าทางระหว่างหูและไหล่ในการโทรศัพท์ ทั้งโทรศัพท์ของออฟฟิศหรือโทรศัพท์มือถือของตัวเองเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 2-3 นาทีติดกันบ่อยครั้งและมีความถี่ที่มากกว่าปกติ ทำให้คอเกร็งและหดตัว จนนำไปสู่ความตึงเครียดและอาการปวดหัวในที่สุด
วิธีแก้ไข : ถ้าจะให้ดีลองใช้ชุดหูฟังแบบแฮนด์ฟรีในการรับสาย หรือลำโพงเปิดเสียง หากสามารถทำได้ เพื่อลดความเสี่ยงของอาการปวดหัว
:: เก้าอี้ ::
คาเร็น ลิซซี่ นักกายภาพบำบัดแห่งมหานครนิวยอร์ก บอกไว้ว่า เก้าอี้ส่วนใหญ่มักจะผลิตขึ้นมาเพื่อคนตัวสูงประมาณ 172 เซนติเมตร (5 ฟุต 8 นิ้ว) ให้นั่งเป็นมาตรฐาน แต่รูปร่างของแต่ละคนนั้นไม่เท่านั้น เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง นั่งเต็มหลังบ้าง ไม่เต็มหลังบ้าง รองรับหลังได้ทั้งหมดบ้าง รองรับหลังได้ไม่ทั้งหมดบ้าง ทั้งหมดล้วนทำให้เกิดความเครียดและอาการปวดหัวแทบทั้งสิ้น
วิธีแก้ไข : การแก้เรื่องเก้าอี้ที่ดีที่สุด นั่นคือ ลองหาสิ่งซัพพอร์ตหลังหรือก้นของคุณเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้หลังเต็มพนักพิงและก้นเต็มเก้าอี้มากขึ้น เช่น เบาะรองหลัง เบาะรองนั่ง เป็นต้น
:: กาแฟ ::
ลองได้กินกาแฟมากกว่าหรือเท่ากับ 2 ถ้วยต่อวันเวลาทำงานอยู่ในออฟฟิศ ส่วนหนึ่งช่วยทำให้คุณตื่นตัวก็จริง แต่ผลที่ตามมาคือ ความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอาการปวดหัวมากขึ้นกว่าเดิม เพราะอาการโหยคาเฟอีน
วิธีแก้ไข : ค่อยๆ เพลาๆ กาแฟที่กินในแต่ละวันให้เลือกเพียง 1 ถ้วยต่อวัน หรือถ้าโหยกาแฟมากๆ ให้ซัดน้ำเปล่าเย็นๆ อยู่ตลอดเวลา เชื่อได้เลยว่า อาการติดกาแฟของคุณจะทุเลาลงตามลำดับ
:: คอมพิวเตอร์ ::
หน้าจอที่สว่างจ้า และหน้ากระดาษในโปรแกรมเวิร์ดที่ขาวตลอดเวลา เมื่อจ้องนานๆ อาจสร้างความล้าและตึงเครียดให้กับตาของคุณได้ จนนำไปสู่อาการปวดหัวในที่สุด
วิธีแก้ไข : มีหลายหนทางมากที่ช่วยบรรเทาสายตาของคุณได้
วิธีแรก – ลองกะพริบตาบ่อยๆ ให้มีน้ำตาหล่อเลี้ยงไว้ ช่วยให้ตาชุ่มชื้นขึ้น
วิธีที่ 2 – ใช้ตัวป้องกันหน้าจออย่างกระจกกรองแสง ช่วยให้แสงจากคอมพิวเตอร์มากระทบตาเบาบางลง
วิธีที่ 3 – ใช้แว่นตัดแสงสีฟ้า ช่วยป้องกันอันตรายจากแสงสีฟ้าที่พุ่งตรงเข้ามายังจอประสาทตาโดยตรง
:: กระเป๋าเป้ ::
ทั้งคอมพิวเตอร์พกพาเอย งานเอย เอกสารเอยที่อยู่ในกระเป๋าเป้ ถ้าน้ำหนักเกินกว่า 4.5 กิโลกรัม (10 ปอนด์) บอกไว้เลยว่า มีปัญหากับคอและหลังแน่ มิหนำซ้ำยังลามไปถึงอาการปวดหัวด้วย
วิธีแก้ไข : แบ่งเบาภาระคุณด้วยการจัดกระเป๋าเป้ให้เป็นระเบียบ คัดสิ่งของที่ไม่จำเป็นออก และหากระเป๋าเป้ที่รองรับคอและหลังของคุณ เพื่อลดอาการปวดที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
ปวดศีรษะแก้ไขไม่ต้องพึ่งยา เพียงแค่ลองปรับสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการใช้ชีวิตในออฟฟิศของตัวเองดู เพราะอาการปวดไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ดูแลสุขภาพให้ดีตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้ต้นตอเร็ว ยิ่งแก้อาการปวดได้เร็วและตรงจุดมากขึ้น
ที่มา : www.health.com