ไม่ว่าจะเป็นการเดิน ยืน นอน หรือนั่ง ล้วนแต่ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังได้ทั้งสิ้น วันนี้ไปดูกันว่าท่านั่งที่นั่งอยู่ในชีวิตประจำวันนั้นเป็นต้นเหตให้เกิดอาการปวดหลังแบบไม่รู้ตัวหรือเปล่านะ
สำหรับท่านั่ง 2 ท่านี้จะส่งผลให้มีน้ำหนักกดลงต่อก้นและกระดูกเชิงของขาที่อยู่ด้านล่าง กระดูกเชิงกรานหมุนไปทางด้านหลัง กล้ามเนื้อล้า ทำงานน้อยลง ส่งผลให้ กระดูกสันหลังคด ตามมาในอนาคต อาจจะกระตุ้นอาการปวดปวดที่เป็นอยู่แล้วเช่น ปวดก้นกบ ปวดสลักเพชร ปวดหลังล่าง
รับรองว่าท่านี้อาจจะเป็นท่านั่งโปรดของหลายๆคน แต่ก็กระตุ้นการปวดหลังแบบไม่รู้ตัว โดยปกติแล้วเวลานั่งน้ำหนักจะลงที่ก้นทั้ง 2 ข้างเท่าๆกัน แต่พอนั่งท่านี้จะทำให้น้ำหนักทั้งหมดมาลงบริเวณหลังล่าง กระเบนเหน็บแทน ใครที่ปวดบริเวณนี้อยู่หลีกเลี่ยงได้จะดีต่อสุขภาพหลังเป็นอย่างดี
ส่งผลให้กระดูกเชิงกรานหมุนไปทางด้านหลัง แนวของกระดูกสันหลังจะลดลง (hypolordotic curve) มีแรงกดต่อกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกสันหลังมากขึ้น การวางตัวของกระดูกเชิงกรานที่เปลี่ยนไป อาจจะเป็นสาเหตที่ส่งผลให้กระตุ้นอาการปวดหลังแบบไม่รู้ตัว
ทั้งนี้ไม่ว่าจะนั่งท่าไหนอาจจะสบายกับบางสรีระ แต่การนั่งท่าเดิมนานๆ มีผลที่ตามมาอย่างแน่นอน อย่าลืมลุกเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 1-2 ชั่วโมง แต่เพื่อสุขภาพในระยะยาวนั่งให้ถูกต้องและหาอุปกรณ์ช่วยดูแลเป็นเบาะรองนั่ง เบาะรองหลัง ที่นักกายภาพผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ก็รับรองว่านั่งสบาย อ่อนโยนต่อหลังของเราแน่นอน