คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนแก่ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคต้อลมได้ โดยเฉพาะกับคนวัยทำงานที่ที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางมลภาวะต่างๆ ที่เสี่ยงอาจทำให้เกิดโรคนี้ได้อย่างง่ายดาย โดยโรคต้อลมนั้นก็มีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ มาจาก
- การที่ดวงตาสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลตหรือที่เรียกว่ารังสี UV ซึ่งมีอยู่ในแสงแดดเป็นระยะเวลานาน
- การที่ดวงตาสัมผัสกับลม ฝุ่น ควัน และความร้อนจนทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตาขาว
- เกิดอาการตาแห้งบ่อยๆ โดยที่ไม่มีการดูแลรักษา
- ทำงานอยู่ในสถานที่ ร้อน มีฝุ่นควันอยู่เป็นเวลานาน โดยที่ไม่มีการป้องกันดวงตา
อาการต่างๆ ของโรคต้อลมในช่วงแรกๆ มักไม่แสดงอาการให้เห็น แต่ก็จะสามารถรู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับดวงตาของเรา เช่น
- เกิดอาการเคืองตา แสบตา และมีน้ำตาไหล
- ตาบวม และแดง
- รู้สึกคันตาเหมือนมีฝุ่นหรือมีอะไรบางอย่างอยู่ในดวงตา
- ลืมตาไม่ขึ้น
- เริ่มมีปัญหาในการมองเห็น
แล้วโรคต้อลมอันตรายอย่างไร ?
โรคต้อลมยังไม่ใช่โรคที่น่ากลัวเท่าไร แต่ถ้าแล้วโรคต้อลมอันตรายอย่างไร?
หากปล่อยให้ดวงตาสัมผัสกับแสงแดด ฝุ่น ควัน และความร้อนโดยตรงอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่มีการป้องกันหรือดูแลรักษา ก็อาจทำให้ดวงตาเกิดการอักเสบจนลามไปถึงตาดำ และกลายเป็นโรคที่เรียกว่า ต้อเนื้อได้ในท้ายที่สุด ซึ่งถือเป็นโรคที่มีความอันตรายอยู่พอสมควรเพราะมันอาจส่งผลต่อการมองเห็นของคุณอย่างถาวรเลยก็ว่าได้
วิธีการรักษาต้อลม
โรคต้อลมหากยังอยู่ในระยะแรกที่ยังไม่มีความร้ายแรง หรือสงผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอะไรมากมาย ก็ยังไม่จำเป็นต้องเข้าพบแพทย์ก็ได้ แต่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตกันบ้าง เช่น หลีกเลี่ยงการทำงาน หรืออยู่ในสถานที่ที่ร้อน โดนแดดโดยตรง มีฝุ่นหรือควันมาก แต่ถ้าหากพบว่ามีอาการที่รุนแรงอย่างเช่นดวงตาเกิดการอับเสบ ก้อนเนื้อที่เกิดขึ้นมีขนาดใหญ่ หรืออยู่ในตำแหน่งที่อันตรายต่อการมองเห็น ก็อาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัดต่อไป ดังนั้นเพื่อไม่ให้อาการเกิดบานปลาย ลุกลามอันตรายไปมากกว่านี้ ควรดูแลและป้องกันดวงตาของคุณให้ปลอดภัยหากต้องอยู่ท่ามกลางมลภาวะ
วิธีการป้องกันการเกิดต้อลม
- ไม่ควรปล่อยให้ดวงตาโดนแสงแดดโดยตรง หากจำเป็นต้องออกกลางแจ้ง ควรหาแว่นที่มีคุณสมบัติสามารถป้องกันรังสี UV ได้ ยิ่งถ้าเป็นแว่นตาที่สามารถปรับแสงอัตโนมัติ เมื่อดวงตาต้องเจอแสงจัดๆแว่นจะปรับเป็นสีเข้ม ยิ่งช่วยป้องกันดวงตา จึงเหมาะอย่างยิ่งเวลาต้องออกไปทำงานข้างนอกเป็นเวลานานๆ
- ใควรปล่อยให้ตาแห้งมากจนเกินไป หากรู้สึกตาแห้งบ่อยควรพบยาหยอดตาติดตัวเอาไว้ใช้สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา
- หากรู้สึกถึงความผิดปกติกับดวงตา เช่น มีอาการแสบตา คันตา ตาแดง ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วน ไม่ควรชะล่าใจปล่อยทิ้งเอาไว้นาน
ดวงตาเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เรามองเห็น แบะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ หากวันหนึ่งดวงตาอของเราเกิดใช้การไม่ได้ขึ้นมา คงสร้างความลำบากให้กับการใช้ชีวิตของเราไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นจึงควรดูแลรักษาดวงตาของเราให้ดี เพื่อให้ดวงตาของเราไม่เสื่อมสภาพ และสามารถใช้ได้อย่างปกติไปจนถึงวัยรา