ปกติเวลาเรานั่งทำงานมักจะใช้เวลานาน 8-10 ชั่วโมง และท่านั่งของเรามักจะเป็นท่าที่ทำให้เราเกิดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลังได้ วันนี้เราเลยมานำเสนอ 7 จุดสำคัญ ที่แก้แล้วจะช่วยทำให้การนั่งทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยทำให้เกิดการ ‘ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง’ เพื่อป้องกันอาการปวดต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ด้วย
ท่านั่งทำงานที่ผิด
ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง
1. ศีรษะ
ศีรษะควรตั้งตรง ไม่ยื่นไปข้างหน้าหรือเงยไปด้านหลังมากเกินไป เพราะฉะนั้นโต๊ะที่เราทำงานควรจะอยู่ในระดับพอดีกับตัวเรา ถ้าหากมันต่ำเกินไปก็จะทำให้ต้องใช้กล้ามเนื้อในการก้มคอมากกว่าปกติ จากงานวิจัยของ Dr. Kenneth Hansraj ปกติคอของคนเราจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 4- 5 กิโลกรัม โดยทั่วไปคนเรามักจะติดก้มคอในการมองจอคอมพิวเตอร์ หรือมองโทรศัพท์มือถือ โดยในทุก ๆ 15 องศาของการก้มคอน้ำหนักของศีรษะจะตกลงตามแนวกระดูกสันหลังคอแบบก้าวกระโดดจาก 12 kg เป็น 18 kg, 22kg, และ 27 kg และหากเราก้มคอเป็นเวลานาน หรือทำเป็นประจำบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ก็ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บต่อโครงสร้างบริเวณคอได้ ส่งผลให้เกิดอาการปวดคอ ปวดหลังส่วนบน หรือกระดูกคอเสื่อมตามมาได้
2. ไหล่
หัวไหล่ต้องไม่ยกขึ้น เพราะฉะนั้นพนักแขนต้องพอดีกับโต๊ะ หรือหากเก้าอี้สูงไม่พอดีกับโต๊ะ บนโต๊ะก็ควรมีพื้นที่พอให้วางแขนได้ และหากที่พักแขนเตี้ยกว่าทำให้เราต้องยกไหล่ ส่งผลให้เกิดอาการเกร็งกล้ามเนื้อไหล่ กล้ามเนื้อคอทำให้เราปวดบ่า หลังส่วนบน หรืออาจลามไปถึงคอได้
3. ข้อมือ แขน
ข้อมือ และแขน ควรวางให้อยู่ในระนาบเดียวกับแป้นพิมพ์ และเม้าส์ หรือต่ำกว่าเล็กน้อยได้ เพราะปกติมุมของข้อศอก เราควรอยู่ในมุมเปิด 100- 110 องศา และระดับข้อมือต่ำกว่าแขนเล็กน้อย แต่หากทำไม่ได้จริงการปรับให้อยู่ในแนวระราบเดียวกัน ก็สามารถช่วยป้องกันการกดทับของเส้นประสาทบริเวณข้อมือหรือแขนได้ อีกทั้งยังป้องกันการเกร็งกล้ามเนื้อไหล่ของเราได้ด้วย
4. หลัง
หลังควรตั้งตรง ไม่ควรโน้มตัวมาข้างหน้าหรือแอ่นไปด้านหลังเกินไป หรือนั่งพิงหลังกับพนักพิงของเก้าอี้ ที่มุมประมาณ 90- 100 องศา และหากรู้สึกว่าหลังของเราไม่ได้รับการรองรับที่ดีจากพนักพิง หรือท่านั่งของเราไม่อยู่ในท่าที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงควรหาเบาะรองหลังมาเพื่อช่วยปรับหลังของเราให้ตั้งอยู่ในแนวปกติ และเพื่อเป็นลดการกดทับของหมอนรองกระดูกสันหลังได้อีกด้วย
5. ก้น
เวลาที่เรานั่งจะเกิดแรงกดทับลงที่กระดูกก้นกบ หรือบริเวณกระดูกกระเบนเหน็บ เนื่องจากบางทีเรานั่งไม่เต็มก้น หรือนั่งเก้าอี้แค่ครึ่งก้น ซึ่งบริเวณนั้นจะเป็นปุ่มกระดูกของร่างกาย ทำให้เราอาจจะมีอาการปวดที่บริเวณนั้น หรือถ้าอาการร้ายแรงขึ้นก็อาจจะทำให้เกิดอาการชาร้าวลงขาได้ เพราะฉะนั้นเราควรจะต้องมีเบาะรองนั่งเพื่อเป็นกระจายน้ำหนักตัว ไม่ให้เกิดการกดทับที่ปุ่มกระดูกเพียงอย่างเดียว
6. เข่า สะโพก
เวลานั่งสะโพกเราควรอยู่ที่ประมาณ 90- 100 องศา หรือ ระดับเข่าพอดีกับสะโพกหรือต่ำกว่าสะโพกเล็กน้อย และควรนั่งออกมาจากเก้าอี้ประมาณ 2- 3 นิ้วด้วย เพื่อเป็นการลดการกดทับใต้ขัอพับเข่า เพราะบางทีเวลาเรานั่งนานๆ เราจะรู้สึกปวดขาหรือขาชาได้ เนื่องจากใต้ข้อพับเข่าเรามีหลอดเลือดและเส้นประสาทอยู่ หากโดนกดทับเป็นเวลานาน ๆ ก็จะเกิดอาการดังกล่าวได้
7. เท้า
ควรวางเท้าราบไปกับพื้น หรือใส่รองเท้าเพื่อซัพพอร์ตเท้าเรา แต่ในกรณีที่เราปรับเก้าอี้ให้สูงเทียบเท่าโต๊ะทำงานแต่ดันทำให้เราขาลอย ก็ควรหาที่วางเท้าเพื่อป้องกันการกดทับบริเวณใต้ข้อพับเข่า
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 จุดสำคัญที่หวังว่าจะสามารถช่วยทำให้เพื่อนๆ เจอกับ ‘ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง’ มากขึ้น และเพื่อเป็นการป้องกันอาการปวดคอ บ่า หลัง จากการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วย
เบาะรองนั่ง & เบาะรองหลัง ตัวช่วยสุดฮิตของชาวออฟฟิศ
เบาะรองนั่ง เบาะรองหลังจาก Bewell ไอเทมสุดฮิตที่เหล่าพนักงานออฟฟิศพลาดไม่ได้ ตัวช่วยที่จะทำให้การนั่งทำงานของคุณดียิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ผลิตจากวัสดุเมมโรรี่โฟมชั้นดี จะรองรับกล้ามเนื้อหลัง ก้น และขาได้เป็นอย่างดี ช่วยลดการกดทับของหมอนรองกระดูกสันหลัง และยังปรับกระตุ้นให้เกิดท่านั่งที่ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ได้อีกด้วย และถ้าหากใครเลือกไม่ถูก และสงสัยว่าเบาะแต่ละตัวแตกต่างกันอย่างไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : เบาะเพื่อสุขภาพ Bewell แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร