อาการชานั้น ผู้อ่านหลายๆ คนก็คงประสบพบเจอมาแล้ว สำหรับคนที่เคยท่องมาว่า เอ ตา ชา บี ซี ฟัน ฯลฯ ซึ่งหมายถึงการกินวิตามินเอ ช่วยบำรุงเรื่องสายตา กินวิตามินบี ช่วยเรื่องประสาท และสมอง ซึ่งช่วยเรื่องแก้อาการเหน็บชา มือชาต่างๆ ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การกินอาหารที่ครบห้าหมู่ รวมถึงเจ้าวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามินบี 12 จะช่วยป้องกันอาการมือชาได้ แต่ยังมีส่วนของพฤติกรรมของเราๆ ในปัจจุบันที่ทำให้เรามีอาการมือชาอยู่
อาการมือชา เกิดจากอะไร
อาการมือชา เกิดจากได้หลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของสมอง การรบกวนของเส้นประสาทระดับคอ ปลายประสาทอักเสบ (จากโรคเบาหวาน หรืออาการขาดวิตามินบี 12) และที่พบมากที่สุดคือ การกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือด้านหน้า ที่น่าสนใจคือ การกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือด้านหน้า ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจจะเกิดความผิดปกติการรับรู้ความสึกของมือในระยะยาวไปเลย รวมถึงเกิดการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อในมือ ทำให้ใช้มือทำอะไรไม่ได้ดีเท่าที่ควร
ทำไมถึงเกิดการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือด้านหน้า
อย่างที่รู้ดีว่าการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือด้านหน้า เป็นสาเหตุหลักของอาการมือชา ซึ่งพฤติกรรมที่ทำให้เกิดอาการนี้ ได้แก่ การเคลื่อนไหวข้อมือในท่ากระดกข้อมือขึ้นหรือลงซ้ำๆ เป็นเวลานาน เช่น การใช้เมาส์ ใช้โน้ตบุ๊ก และการขับรถเป็นเวลานาน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือด้านหน้า
นอกจากพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว ยังมีสาเหตุของการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือด้านหน้าจาก การเล่นกีฬา เคยมีอุบัติเหตุ อาการบาดเจ็บข้อมือ โรคแทรกซ้อนที่ไปรบกวนประสาทส่วนปลาย เช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคไต หรือโรคพิษสุรา รวมถึงอาการคั่งของน้ำในร่างกาย อันเนื่องมาจากโรคอ้วน และสาเหตุของการเกิดการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือด้านหน้าที่มาจากโรคข้ออักเสบต่างๆ รวมถึงอาการข้อเสื่อมด้วย
อาการมือชาเป็นประมาณไหน
อาการมือชาก็มีหลายระดับ ถ้าหากผู้อ่านอยากรู้ ให้นึกถึงมือเราเวลาจับเมาส์ ส่วนที่เราได้สัมผัสกับเมาส์ ทั้งหมดมีอาการชาหนาๆ ชาแบบยิบๆ หรือบางทีอาจจะมีอาการคล้ายๆ ปวดบริเวณฝ่ามือก็เป็นได้ หนักไปกว่านั้นอาจจะรู้สึกปวดมากๆ กลางดึกจนต้องทำให้ตื่นขึ้นมาก็มี แต่ที่น่าดีใจคือ ไม่ว่าจะเกิดอาการระดับไหน แค่สะบัดๆ มือ เพียงเท่านี้ก็หายแล้ว
แน่นอนว่าการสะบัดมือเป็นเพื่อการบรรเทา ไม่ใช่การรักษา ซึ่งถ้าหากบ่อยไว้นานๆ อาจจะมีอาการมือชาถึงขั้นที่ คล้ายๆ กล้ามเนื้ออ่อนแรงเลย เช่น ติดกระดุมลำบาก ของหลุดจากมือบ่อย หรือการไขกุญแจห้องทำได้ยาก เป็นต้น
การรักษาอาการมือชา
อาการมือชาดูเบื้องต้นแล้วไม่ร้ายแรงอะไร แต่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะถ้าเป็นหนักๆ แล้ว หรือปล่อยปละละเลย การรักษาก็จะโหดถึงขั้นต้องผ่าตัด ซึ่งก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น การกายภาพบำบัด สำหรับผู้ที่มีอาการแล้ว ก็อาจจะต้องศึกษาการบำบัดกันนิดหน่อย ซึ่งสามารถทำได้ที่บ้าน สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศหรือใครก็ตาม ง่ายๆ ด้วยยางยืดบริหารมือ ป้องกันการเกิดการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือด้านหน้า มาลองดูวิธีบริหารแบบง่ายๆ โดนมีอุปกรณ์อย่าง Hand Gripper กันเลย